
เปิดสุดยอดประสบการณ์ การเดินทางสู่ ‘มณฑลเหอหนาน’ จุดกำเนิดประวัติศาสตรจีนนับพันปี
การท่องเที่ยวมณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ชวนนักท่องเที่ยวไทย
เปิดประสบการณ์ เดินทางสู่มณฑลเหอหนาน จุดกำเนิดประวัติศาสตรจีนนับพันปี ด้วยการบรรจงคัดสรรสถานที่ท่องเที่ยวสุดพิเศษที่พลาดไม่ได้ ในมณฑลเหอหนานมานำเสนอให้กับนักท่องเที่ยวไทย...โดยเฉพาะ!
7 กุมภาพันธ์
2561 กรุงเทพฯ ได้มีการจัดสัมมนาการส่งเสริมการท่องเที่ยวมณฑลเหอหนาน หัวข้อ “HENAN – WHERE CHINA BEGAN” โดยได้รับเกียรติจากตัวแทนทั้งสองประเทศ ประกอบด้วย Mr. Sun Bo รองผู้ตรวจการกองส่งเสริมและความร่วมมือระหว่างประเทศ
Mr. Guo Ji Shan ผู้อำนวยการฝ่ายการท่องเที่ยวจังหวัดเหอหนาน MR. Wu Zheng บริษัท CTS (Beijing) Travel Service C0., CITS และMr. Xie Yin Xiao Seasons Holiday ซึ่งภายในงานมีการพบปะกันระหว่างหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว
หน่วยงานทางการทูต สถานศึกษา และสื่อมวลชนของจีน-ไทย รวมถึงพิธีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวระหว่างบริษัท
ไชน่าอินเตอร์เนชั่นแนลแทรเวิร์ซ์เซอร์วิส จำกัด
และสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (CCT Travel
Agency) เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างจีน – ไทย ในการส่งเสริม แลกเปลี่ยน และพัฒนาด้านการท่องเที่ยวทั้งสองประเทศ
สำหรับ มณฑลเหอหนาน (Henan) เป็นมณฑลหนึ่งในสาธารณรัฐประชาชนจีน นับว่าเป็นดินแดนเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์จีนนับพันปีและเปี่ยมไปด้วยศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า
โดยมีเมืองโบราณ 4 ใน 8 เมืองโบราณของประเทศจีนอยู่ในมณฑลเหอหนานนี้ ประกอบด้วย เมืองเจิ้งโจว
(Zhengzhou), เมืองอันหยาง (Anyang), เมืองลั่วหยาง (Luoyang) และเมืองไคฟง (Kaifeng) สำหรับแลนด์มาร์คสำคัญของ
4 เมืองโบราณแห่งเหอหนานที่นักท่องเที่ยวไทยไม่ควรพลาด มาเริ่มกันด้วย เมืองเจิ้งโจว เมืองหลวงของเหอหนานเป็นเมืองที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด
และเป็นเมืองที่ถูกเรียกว่า
พิพิธภัณฑ์แห่งเจิ้งโจว ศูนย์รวมของโบราณกว่า 130,000 ชิ้น
และเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นแหล่งกำเนิดของอารยธรรมจีนที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมากกว่าสามพันปี เมืองอันหยาง
มีสถานที่เชิงประวัติศาสตร์ที่มีอายุยาวนานที่สุดของจีน คือ อินซวี (The Yin Ruins
at Anyang) ถูกค้นพบในปี 1899
จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกขององค์การ UNESCO นับว่าเป็นเมืองแห่งอารธรรมจีนโบราณที่สำคัญอีกหนึ่งแห่ง
โดยมีการค้นพบหลักฐานชิ้นสำคัญ คือ กระดูกคำทำนายจารึกด้วยตัวอักษรจีนโบราณที่บ่งบอกเกี่ยวกับวัฒนธรรมและสถานะทางสังคมของคนในยุคนั้น
เมืองลั่วหยาง ที่ตั้งของถ้ำผาหลงเหมิน เป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่สุดในจีน อายุรวมกว่า 400 ปี
มีลักษณะเป็นหมู่ถ้ำเล็ก ๆ ถึง 2,345 คูหา ประติมากรรมพุทธรูปอีก
100,000 กว่าองค์ พระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ
พระพุทธรูปสลักผาหิน มีความสูง 17 เมตร และมีใบหูยาวกว่า 2 เมตร
ได้รับรูปแบบการก่อสร้างอ้างอิงมาจาก พระพุทธเจ้าและจักรพรรคหญิงของจีน Wu Zetian รอยยิ้มของนาง
กล่าวกันว่ามีความงามเช่นเดียวกับ
Mona Lisa ซึ่งสถานที่แห่งนี้ได้รับการยกย่องจากองค์กร UNESCO ให้เป็นมรดกโลกด้วยเช่นกัน และเมืองไคฟง เป็นเมืองที่ตั้งของศาลไคฟง สถานที่พิพากษาคดีของท่านเปาบุ้นจิ้น ยอดคนคุณธรรมแดนมังกร โดยภายในศาลมีการจัดแสดงชุดเครื่องประหารของเปาบุ้นจิ้นและมีรูปปั้นท่านเปาบุ้นจิ้น หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ สูง 3.8 เมตร หนัก 5.6 ตัน นับเป็นรูปปั้นที่หนักที่สุดในเมืองจีน
Mona Lisa ซึ่งสถานที่แห่งนี้ได้รับการยกย่องจากองค์กร UNESCO ให้เป็นมรดกโลกด้วยเช่นกัน และเมืองไคฟง เป็นเมืองที่ตั้งของศาลไคฟง สถานที่พิพากษาคดีของท่านเปาบุ้นจิ้น ยอดคนคุณธรรมแดนมังกร โดยภายในศาลมีการจัดแสดงชุดเครื่องประหารของเปาบุ้นจิ้นและมีรูปปั้นท่านเปาบุ้นจิ้น หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ สูง 3.8 เมตร หนัก 5.6 ตัน นับเป็นรูปปั้นที่หนักที่สุดในเมืองจีน
ไม่เพียงเท่านี้ เหอหนานยังเป็นมณฑลที่มีทัศนีย์ภาพทางธรรมชาติอันงดงามและอุดมสมบูรณ์
อย่างภูเขา Baiyun หรือภูเขาเมฆขาว “ยอดเขาที่สวยที่สุดในประเทศจีน” ให้ความรู้สึกเดินท่ามกลางก้อนเมฆ รวมถึงการฝึกซ้อมกังฟู (Kung Fu) โดยมี Shaolin Kung Fu เป็นหนึ่งในรูปแบบที่เก่าแก่ที่สุดและ
มีชื่อเสียงมากที่สุดของศิลปะการต่อสู้ในจีน จนมีคำพูดว่า “ศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดเกิดจากวัดเส้าหลิน”
และอีกหนึ่งศิลปะด้านการป้องกันตัวและรักษาสุขภาพชื่อดังของจีน คือ การฝึกฝนไทชิ หรือไทเก็ก (Tai Chi) ที่ผู้คนนับพันทั่วโลกเดินทางมายัง “ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของไทชิ” เพื่อเรียนรู้และฝึกฝนด้านการป้องกันตัว และเพื่อประโยชน์ต่อการรักษาโรค

อย่างภูเขา Baiyun หรือภูเขาเมฆขาว “ยอดเขาที่สวยที่สุดในประเทศจีน” ให้ความรู้สึกเดินท่ามกลางก้อนเมฆ รวมถึงการฝึกซ้อมกังฟู (Kung Fu) โดยมี Shaolin Kung Fu เป็นหนึ่งในรูปแบบที่เก่าแก่ที่สุดและ
มีชื่อเสียงมากที่สุดของศิลปะการต่อสู้ในจีน จนมีคำพูดว่า “ศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดเกิดจากวัดเส้าหลิน”
และอีกหนึ่งศิลปะด้านการป้องกันตัวและรักษาสุขภาพชื่อดังของจีน คือ การฝึกฝนไทชิ หรือไทเก็ก (Tai Chi) ที่ผู้คนนับพันทั่วโลกเดินทางมายัง “ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของไทชิ” เพื่อเรียนรู้และฝึกฝนด้านการป้องกันตัว และเพื่อประโยชน์ต่อการรักษาโรค
Mr. Guo Ji Shan
ผู้อำนวยการฝ่ายการท่องเที่ยวจังหวัดเหอหนาน กล่าวเพิ่มเติมว่า “ เหอหนานมณฑลที่มีสถานที่ยอดเยี่ยม
ทั้งทางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ทุกสถานที่ท่องเที่ยวเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของอารยธรรมอันทรงคุณค่าของจีน พร้อมด้วยทัศนียภาพทางธรรมชาติอันงดงามและอุดมสมบูรณ์ ในฐานะตัวแทนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ขอเชิญนักท่องเที่ยวไทยมาร่วมเปิดประสบการณ์สุดประทับใจด้วยกันที่ มณฑลเหอหนาน จุดกำเนิดประวัติศาสตร์จีนนับพันปี”